หน้าเว็บ

Air Conditioner

 Air Conditioner




          เครื่องปรับอากาศ หรือภาษาปากว่า แอร์ (อังกฤษ: Air conditioner, aircon) คือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้ปรับ
อุณหภูมิของอากาศในเคหสถาน เพื่อให้มนุษย์ได้อาศัยอยู่ในที่ที่ไม่ร้อนหรือไม่เย็นจนเกินไป หรือใช้รักษาภาวะ
อากาศให้คงที่เพื่อจุดประสงค์อื่น เคหสถานในเขตศูนย์สูตรหรือเขตร้อนชื้นมักมีการติดตั้งเครื่องปรับอากาศ
เพื่อลดอุณหภูมิให้เย็นลง ตรงข้ามกับในเขตอบอุ่นหรือเขตขั้วโลกใช้เพื่อเพิ่มอุณหภูมิให้สูงขึ้น (อาจเรียกว่า
เครื่องทำความร้อน) เครื่องปรับอากาศมีทั้งแบบตั้งพื้น ติดผนัง และแขวนเพดาน ทำงานด้วยหลักการการถ่ายเท
ความร้อน กล่าวคือ เมื่อความร้อนถ่ายเทออกไปข้างนอก อากาศภายในห้องจะมีอุณหภูมิลดลง เป็นต้น
และเครื่องปรับอากาศอาจมีความสามารถในการลดความชื้นหรือการฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ด้วย

      ขนาดเครื่องปรับอากาศ
      ขนาดของเครื่องปรับอากาศ มีหน่วยเป็น บีทียู ต่อ ชั่วโมง (BTU/hr) (บีทียู เป็นหน่วยของความร้อน)
เป็นค่าความสามารถในการลดพลังงานความร้อนของเครื่องปรับอากาศ โดยการลดพลังงานความร้อน 1 บีทียู
จะทำให้น้ำบริสุทธิ์ที่หนัก 1 ปอนด์ (ประมาณ 453.6 มิลลิลิตร) เย็นลง 1 องศาฟาเรนไฮต์ (59 องศาเซลเซียส)
การเลือกขนาดของเครื่องปรับอากาศนั้นต้องคำนึงถึงขนาดของเครื่องปรับอากาศและขนาดของ BTU
ของเครื่องปรับอากาศควบคู่กันไปด้วย คำว่า BTU ย่อมาจาก British Thermal Unit ซึ่งหากเลือกขนาด
ของเครื่องปรับอากาศไม่พอดีจะส่งผลดังนี้

      - BTU ต่ำไป ส่งผลให้คอมเพรสเซอร์จะทำงานตลอดเวลา สิ้นเปลื้องพลังงาน และอาจจะทำให้
                            เครื่องปรับอากาศเสียเร็ว

      - BTU สูงไป ส่งผลทำให้คอมเพรสเซอร์จะทำงานตัดบ่อยไป ทำให้ประสิทธิ์ภาพในการทำงาน
                            ลดน้อยลง ทำให้ความชื้นในห้องสูง เมื่ออยู่ในห้องนั้นจะรู้สึกไม่สบายตัว
ขนาด BTU
ขนาดห้องปกติ(ตารางเมตร)
ขนาดห้องที่โดนแสงแดด(ตารางเมตร)
9,000
12-15
11-14
12,000
16-20
14-18
18,000
24-30
21-27
21,000
28-35
25-32
24,000
32-40
28-36
26,000
35-44
30-39
30,000
40-50
35-45
36,000
48-60
42-54
48,000
64-80
56-72
60,000
80-100
70-90

          ประเภทเครื่องปรับอากาศ

ประเภทของเครื่องปรับอากาศภายในบ้านเรือน ถ้าแบ่งตามลักษณะตำแหน่งของแฟนคอยล์ ยุนิท
(ตัวพัดลมที่เป่าความร้อนออกไปภายนอก) จะแบ่งได้ 2 ประเภท คือ

          1.แบบชิ้่นเดียว

    เครื่องปรับอากาศแบบชิ้นเดียว หรือที่พวกเราคุ้นเคยในในชื่อ แอร์ฝังหน้าต่าง/ผนัง (window type)
ตัวแฟนคอยล์ ยุนิตจะอยู่เป็นชิ้นเดียวกับตัวคอนเดนซิ่ง ยุนิต (ส่วนที่เป่าลมเย็นให้กับภายในห้อง)

         ข้อดีของเครื่องแบบนี้คือขนาดกะทัดรัด ติดตั้งง่ายเพราะไม่ต้องเดินท่อน้ำยาแอร์
แต่ข้อเสียคือ เสียงจะค่อนข้างดัง(โดยเฉพาะเมื่อมันเก่ามากๆ) แรงสั่นสะเทือนที่กระทำต่อตัวเครื่อง
และโครงสร้างของจุดที่ติดตั้งก็มีสูง และถ้าเครื่องมีขนาดขนาดใหญ่เกินไปจะมีปัญหาในการติดตั้ง
เพราะบริเวณช่องหน้าต่าง/ผนังไม่สามารถรับน้ำหนักมากได้ ต้องทำโครงสร้างมาช่วยค้ำจุนเพิ่ม

         นอกจากนี้ภายในตัวเครื่องยังประกอบด้วยวงจรการทำความเย็นและวงจรการหมุนเวียนอากาศ
สมบูรณ์ในตัว ซึ่งวงจรการหมุนเวียนของอากาศจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ วงจรการหมุนเวียน
ของอากาศภายนอกห้องและวงจรหมุนเวียนของอากาศภายในห้อง โดยมีมอเตอร์ชนิด
แกนพลาเป็นตัวขับเคลื่อนใบพัดให้เกิดการหมุนเวียนของอากาศ

          2.แบบแยกชิ้น

         เครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วน (อังกฤษ: split type) เป็นแบบที่เราเห็นกันได้ทั่วไป และนิยม
มากที่สุดโดยตัวแฟนคอยล์ ยุนิตนั้นจะแยกไปติดตั้งภายนอกอาคารซึ่งจะแยกออกจาก ส่วนของตัวเครื่อง
ระบายความร้อน โดยทั่วไปจะมีขนาดตั้งแต่ 1-50 ตัน ถ้าเป็นขนาด 1-3 ตัน มักจะไม่มีการต่อท่อลม
ไปจ่ายหลายๆ จุด แต่หากขนาดมากกว่านั้นอาจมีการต่อท่อลม ออกจากส่วนเป่าลม
เพื่อไปจ่ายในหลายจุด ทำให้มีข้อดีคือเงียบ เพราะเครื่องระบายความร้อนจะโดนแยกออกไปวางไว้ที่อื่น
แต่จะยุ่งยากในส่วนของการติดตั้งมากกว่าระบบติดหน้าต่าง เพราะต้องคำนึงถึง การเดินท่อ
ระหว่างเครื่องที่แยกส่วน ท่อระบายน้ำจากที่เป่าลมเย็น ( Fan Coil ) ด้วย ทั้งยังมีรูปแบบให้เลือก
ค่อนข้างมาก ข้อเสียคือไม่สามารถมีท่อน้ำที่ยาวได้ เพราะอาจจะทำให้ความเย็นน้อยลง
แต่หากจำเป็นที่จะต้องต่อท่อยาวก็จะต้องติดตั้งคอยล์ร้อนกับพัดลมเย็นให้อยู่ห่างกัน
น้ำยาแอร์ปัจจุบันที่ใช้ในเครื่องปรับอากาศทั่วไปรวมถึงตู้เย็นและเครื่องปรับอากาศแบบส่วนกลาง
ที่ใช้ในอาคารขนาดใหญ่ ในปัจจุบันมีชื่อเรียกทางเคมีว่า R-22 ส่วนน้ำยาแอร์สำหรับใช้ในรถยนต์
มีชื่อเรียกทางเคมีว่า R-134A

        ค่า EER

       -  ค่า EER ย่อมาจาก Energy Efficiency Rating เป็นค่าประสิทธิภาพของเครื่องปรับอากาศ
โดยจะหาได้จาก ขนาดของเครื่องปรับอากาศ (บีทียู ต่อ ชั่วโมง) หารด้วย กำลังไฟฟ้าที่เครื่องปรับ
อากาศใช้ (วัตต์) เช่น เครื่องปรับอากาศ ขนาด 11,700 บีทียูต่อชั่วโมง ใช้ไฟฟ้า 1,000 วัตต์
จะมีค่า EER = 11,700 หาร 1,000 = 11.7 เป็นต้น

      - หากเครื่องปรับอากาศมีค่า EER สูง จะมีความสามารถสูงขึ้น สามารถทำงานดูดความร้อน
ได้ในอัตรา (BTU/hr) ที่สูงขึ้น โดยใช้พลังงาน (วัตต์)เท่าเดิม หรือดูดความร้อนในอัตราเท่าเดิม
โดยใช้พลังงานน้อยลง นั่นหมายถึง ยิ่งมีค่า EER สูง ยิ่งประสิทธิภาพในการใช้พลังงานสูง
     - ค่า EER นี้ ถูกใช้เป็นเกณฑ์ในการตัดสินฉลากพลังงานด้วย โดยที่เครื่องปรับอากาศ
ที่จะได้ฉลาดประหยัดไฟเบอร์ 5 ในประเทศไทย จะต้องมีค่า EER = 11.6 ขึ้นไป
สำหรับเครื่องปรับอากาศขนาดไม่เกิน 27,296 บีทียู/ชั่วโมง และ 11.0 ขึ้นไป
สำหรับเครื่องปรับอากาศขนาด มากกว่า 27,296 บีทียู/ชั่วโมง

       ปัจจุบันได้เพิ่ม SEER สำหรับเครื่องปรับอากาศแบบอินเวอร์เตอร์

                                                ระบบอินเวอร์เตอร์









          ระบบอินเวอร์เตอร์ (Inverter) คือ ระบบที่นำเอาความรู้ทางด้านอิเลคทรอนิกส์ที่ควบคุม
การทำงานด้วยคำสั่งจาก ไมโครคอมพิวเตอร์ที่สั่งงานโดยตรงจากรีโมทคอนโทรน และนำคำสั่ง
ดังกล่าวมาใช้ ควบคุมการทำงานของระบบเครื่องปรับอากาศ ให้ทำงานปรับอุณหภูมิ ควบคุมความชื้น
ควบคุมความเย็น ให้ทำงานได้โดยอัตโนมัติ
โดยใช้คำสั่งจากโมโครคอมพิวเตอร์

      ในส่วนของเครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่นิยามคำว่าอินเวอร์เตอร์คือการพัฒนากระบวนการทำงาน
ของเครื่องปรับอากาศให้ดียิ่งขึ้นหลักๆคือแรงลมเย็นที่ไม่ปล่อยของเสียทำลายสิ่งแวดล้อมเรียกว่า
สารทำความเย็น R32 รวมถึงการปรับการทำงานของคอมเพรสเซอร์ให้ประหยัดไฟและทนทานกว่าเดิม
คำว่า INVERTER จึงมีในเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดอื่นด้วยไม่ว่าจะเป็นเครื่องซักผ้าหรือตู้เย็น จึงมั่นใจได้ว่า
เทคโนโลยีนี้จะช่วยยกระดับการใช้ชีวิตในบ้านได้อย่างแน่นอน